สถานะทางกฎหมายของ Exness ในประเทศไทย: กรอบระเบียบข้อบังคับและการปฏิบัติตามกฎหมาย
Home » Legal Status
ภาพรวมสถานะทางกฎหมายของ Exness
Exness ดำเนินการในฐานะโบรกเกอร์ซื้อขายออนไลน์ระดับโลกที่ให้บริการแก่นักลงทุนในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย บริษัทได้จัดตั้งขึ้นในปี 2008 และได้ขยายการให้บริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง ในประเทศไทย Exness ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการให้บริการทางการเงินข้ามพรมแดน
สถานะทางกฎหมายของ Exness มีความซับซ้อนเนื่องจากธรรมชาติระหว่างประเทศของการดำเนินงาน บริษัทได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งในเขตอำนาจต่างๆ ซึ่งช่วยให้สามารถให้บริการแก่ลูกค้าทั่วโลกได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับนักลงทุนไทย การเข้าใจว่า Exness ดำเนินการภายใต้ใบอนุญาตระหว่างประเทศใดและกฎระเบียบท้องถิ่นใดที่มีผลบังคับใช้เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจทางการลงทุน
ในเอกสารนี้ เราจะวิเคราะห์สถานะทางกฎหมายของ Exness ในบริบทของประเทศไทย ตรวจสอบใบอนุญาตและการรับรองระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และอธิบายเกี่ยวกับข้อกำหนดการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม
การกำกับดูแลระดับสากลของ Exness
Exness ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่ง ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย นี่คือหน่วยงานกำกับดูแลหลักที่ Exness อยู่ภายใต้:
การรับรองจาก Financial Conduct Authority (FCA)
Exness (UK) Ltd ได้รับการควบคุมโดย Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร ภายใต้หมายเลขอ้างอิง 730729 FCA เป็นหนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่เข้มงวดที่สุดในโลก ซึ่งมีมาตรฐานการดำเนินงานและความโปร่งใสในระดับสูง
การรับรองจาก FCA หมายความว่า Exness ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดในด้านต่างๆ เช่น:
- การแยกบัญชีเงินของลูกค้าออกจากเงินทุนของบริษัท
- การรักษาเงินทุนสำรองที่เพียงพอ
- การรายงานทางการเงินอย่างละเอียดและโปร่งใส
- การปฏิบัติตามมาตรฐานการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และกระบวนการรู้จักลูกค้า (KYC)
- การดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส

การรับรองจาก Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)
Exness ยังได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ผ่านบริษัท Exness Europe Limited ซึ่งมีหมายเลขใบอนุญาต 178/12 CySEC เป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่ได้รับการยอมรับในสหภาพยุโรป และบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ CySEC สามารถให้บริการในพื้นที่เศรษฐกิจยุโรป (EEA) ได้
การกำกับดูแลของ CySEC บังคับใช้ข้อกำหนดที่สำคัญหลายประการ รวมถึง:
- การรักษาเงินทุนขั้นต่ำ
- การเข้าร่วมกองทุนชดเชยนักลงทุน (Investor Compensation Fund)
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบ MiFID II ของสหภาพยุโรป
- การเปิดเผยความเสี่ยงอย่างครบถ้วนให้กับลูกค้า
- การรายงานธุรกรรมต่อหน่วยงานกำกับดูแล
การรับรองจาก Financial Services Authority (FSA) เซเชลส์
Exness ได้รับใบอนุญาตและการควบคุมโดย Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์ ใบอนุญาตนี้ช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการแก่ลูกค้าในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงเอเชียและแอฟริกา
แม้ว่าการกำกับดูแลใน FSA เซเชลส์จะไม่เข้มงวดเท่ากับ FCA หรือ CySEC แต่ยังคงกำหนดให้ Exness ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการดำเนินงานขั้นพื้นฐาน รวมถึง:
- การรักษามาตรฐานทางธุรกิจที่เหมาะสม
- การดำเนินมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน
- การเก็บรักษาบันทึกที่เหมาะสม
- การปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเป็นธรรม

การตรวจสอบทางการเงินโดย Deloitte
นอกเหนือจากการกำกับดูแลตามกฎหมายแล้ว Exness ยังดำเนินการตรวจสอบโดยบริษัท Deloitte ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีชั้นนำระดับโลก การตรวจสอบเหล่านี้ครอบคลุมแง่มุมสำคัญของการดำเนินงานของบริษัท รวมถึง:
- ปริมาณการซื้อขาย
- การถอนเงินของลูกค้า
- ค่าคอมมิชชันของตัวแทน
- รายงานทางการเงิน
การตรวจสอบเหล่านี้เพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับการดำเนินงานของ Exness และเป็นหลักประกันเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนไทย
สถานะทางกฎหมายของ Exness ในประเทศไทย
ในประเทศไทย ตลาดการเงินและธุรกิจโบรกเกอร์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานหลักสองแห่ง: สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ความสัมพันธ์ของ Exness กับหน่วยงานเหล่านี้และสถานะการดำเนินงานของบริษัทในประเทศไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนท้องถิ่น
ความสัมพันธ์กับหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศไทย
ปัจจุบัน Exness ไม่มีใบอนุญาตโดยตรงจาก ก.ล.ต. หรือ ธปท. เพื่อดำเนินการในฐานะโบรกเกอร์ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถให้บริการแก่นักลงทุนไทยผ่านใบอนุญาตระหว่างประเทศที่มีอยู่
ภายใต้กรอบกฎหมายปัจจุบัน นักลงทุนไทยสามารถใช้บริการของโบรกเกอร์ต่างประเทศได้ แต่ควรตระหนักว่าบริษัทเหล่านี้อาจไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของหน่วยงานกำกับดูแลไทย ในกรณีของ Exness นักลงทุนไทยจะได้รับการคุ้มครองจากการกำกับดูแลของหน่วยงานระหว่างประเทศที่บริษัทได้รับการรับรอง
ข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับนักลงทุนไทย
แม้ว่านักลงทุนไทยจะสามารถซื้อขายกับ Exness ได้ แต่มีข้อกำหนดทางกฎหมายบางประการที่พวกเขาควรทราบ:
- การแลกเปลี่ยนเงินตรา: ธปท. มีข้อจำกัดเกี่ยวกับการโอนเงินออกนอกประเทศ นักลงทุนต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้เมื่อฝากเงินกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ
- การรายงานภาษี: รายได้จากการซื้อขายกับโบรกเกอร์ต่างประเทศต้องรายงานต่อกรมสรรพากรและอาจต้องเสียภาษีตามกฎหมายไทย
- การปฏิบัติตามกฎหมาย AML/KYC: เมื่อใช้บริการของ Exness นักลงทุนไทยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรู้จักลูกค้า (KYC) และการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) ซึ่งอาจรวมถึงการยืนยันตัวตนและการให้เอกสารที่จำเป็น
- เงื่อนไขการให้บริการ: นักลงทุนควรอ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขการให้บริการของ Exness อย่างละเอียด โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์หรือข้อกำหนดเฉพาะของประเทศ
แนวโน้มกฎระเบียบในอนาคต
ภูมิทัศน์ด้านกฎระเบียบในประเทศไทยสำหรับโบรกเกอร์ออนไลน์และการซื้อขาย Forex มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานกำกับดูแลไทยได้แสดงความสนใจในการปรับปรุงกรอบการกำกับดูแลสำหรับการให้บริการทางการเงินข้ามพรมแดน
อนาคตอันใกล้อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของนักลงทุนไทยในการใช้บริการของโบรกเกอร์ต่างประเทศหรืออาจกำหนดให้โบรกเกอร์ต่างประเทศต้องได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการในประเทศไทย นักลงทุนควรติดตามการประกาศของ ก.ล.ต. และ ธปท. เพื่อรับทราบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจมีผลต่อสถานะทางกฎหมายของการซื้อขายกับ Exness
การปกป้องเงินทุนของลูกค้าและความปลอดภัย
หนึ่งในข้อกังวลหลักสำหรับนักลงทุนที่ใช้โบรกเกอร์ออนไลน์คือความปลอดภัยของเงินทุนของพวกเขา Exness ได้ดำเนินการหลายมาตรการเพื่อปกป้องเงินทุนของลูกค้าตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ
การแยกบัญชีลูกค้า
ตามข้อกำหนดของ FCA และ CySEC Exness รักษาบัญชีที่แยกต่างหากสำหรับเงินทุนของลูกค้า นั่นหมายความว่าเงินของลูกค้าจะถูกเก็บแยกต่างหากจากเงินทุนของบริษัท ในสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงและได้รับการควบคุม
การแยกบัญชีนี้มีความสำคัญเนื่องจาก:
- ป้องกันไม่ให้บริษัทใช้เงินของลูกค้าเพื่อการดำเนินงานของตนเอง
- ช่วยให้มั่นใจว่าเงินทุนของลูกค้าจะได้รับการปกป้องในกรณีที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน
- อำนวยความสะดวกในการคืนเงินของลูกค้าในกรณีที่บริษัทมีปัญหา
กองทุนชดเชยนักลงทุน
ในฐานะบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ CySEC Exness เป็นสมาชิกของกองทุนชดเชยนักลงทุน (Investor Compensation Fund – ICF) กองทุนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยให้กับลูกค้าของบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในกรณีที่บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันทางการเงินของตนได้
ICF สามารถจ่ายชดเชยให้กับนักลงทุนที่มีสิทธิ์ได้รับสูงสุดถึง 20,000 ยูโรต่อนักลงทุน ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับกองทุนชดเชยนักลงทุน
การป้องกันยอดติดลบ
Exness เสนอการป้องกันยอดติดลบสำหรับบัญชีทั้งหมด ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะไม่สูญเสียเงินมากกว่าที่พวกเขาฝากไว้ในบัญชีการซื้อขายของตน นี่เป็นมาตรการป้องกันที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูงและสำหรับการซื้อขายที่ใช้เลเวอเรจ
การป้องกันยอดติดลบทำงานโดย:
- ปิดตำแหน่งโดยอัตโนมัติเมื่อทุนของบัญชีลดลงถึงระดับที่กำหนด
- ป้องกันไม่ให้ยอดคงเหลือในบัญชีเป็นลบ แม้ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมีช่องว่างก็ตาม
- ปกป้องนักลงทุนจากการสูญเสียมากกว่าเงินทุนที่พวกเขามีในบัญชี
ความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม
Exness ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มการซื้อขายและระบบต่างๆ เพื่อปกป้องข้อมูลและเงินทุนของลูกค้า บริษัทได้ดำเนินการด้านความปลอดภัยหลายประการ รวมถึง:
- การเข้ารหัส SSL แบบ 128-bit สำหรับการส่งข้อมูลทั้งหมด
- การยืนยันตัวตนสองปัจจัย (2FA) เพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต
- นโยบายความปลอดภัยที่เข้มงวดและเครื่องมือตรวจจับการทุจริต
- การอัปเดตและการตรวจสอบระบบเป็นประจำเพื่อระบุและแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
ข้อกำหนดการยืนยันตัวตนและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบระหว่างประเทศและท้องถิ่น Exness ต้องดำเนินกระบวนการยืนยันตัวตนอย่างเข้มงวดสำหรับลูกค้าทั้งหมด รวมถึงนักลงทุนไทย กระบวนการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และการรู้จักลูกค้า (KYC) ของบริษัท

กระบวนการยืนยันตัวตน
กระบวนการยืนยันตัวตนของ Exness ประกอบด้วยสองส่วนหลัก: การยืนยันตัวตนและการยืนยันที่อยู่ นักลงทุนไทยจะต้องส่งเอกสารต่อไปนี้:
การยืนยันตัวตน (Proof of Identity – POI):
- บัตรประจำตัวประชาชนไทย หรือ
- หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ หรือ
- ใบขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ
การยืนยันที่อยู่ (Proof of Residence – POR):
- ใบแจ้งหนี้สาธารณูปโภค (ไฟฟ้า น้ำ หรือก๊าซ) ที่ออกภายใน 3 เดือนล่าสุด หรือ
- ใบแจ้งยอดบัญชีธนาคารที่ออกภายใน 3 เดือนล่าสุด หรือ
- เอกสารทางการจากหน่วยงานรัฐบาลที่ออกภายใน 3 เดือนล่าสุด
เอกสารทั้งหมดต้องชัดเจน มองเห็นได้ทั้งหมด และเป็นปัจจุบัน เอกสารที่หมดอายุหรือไม่ครบถ้วนจะไม่ได้รับการยอมรับ
ข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับตลาดเฉพาะ
ในบางกรณี นักลงทุนไทยอาจต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมตามข้อกำหนดเฉพาะหรือขนาดของบัญชี กรณีเหล่านี้อาจรวมถึง:
- หลักฐานแหล่งที่มาของเงินทุน เช่น ใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร หลักฐานการจ้างงาน หรือเอกสารด้านการลงทุน
- ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพและกิจกรรมทางการเงินของนักลงทุน
- การยืนยันเพิ่มเติมสำหรับวิธีการฝากหรือถอนเงินบางวิธี
กระบวนการยืนยันตัวตนที่เข้มงวดเหล่านี้ช่วยให้ Exness สามารถ:
- ป้องกันกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบทั่วโลก
- ปกป้องลูกค้าจากการฉ้อโกงและการละเมิดบัญชี
- รักษาความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม
การยอมรับวิธีการชำระเงินในประเทศไทย
เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบท้องถิ่นและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนไทย Exness ยอมรับวิธีการชำระเงินหลายวิธีที่พร้อมใช้งานในประเทศไทย แต่ละวิธีมีข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน:
- บัตรเครดิต/เดบิต: ต้องมีการยืนยันบัตรเพิ่มเติมเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบการป้องกันการฉ้อโกงบัตรเครดิต
- การโอนเงินผ่านธนาคาร: ต้องมาจากบัญชีในชื่อเดียวกับบัญชี Exness ตามข้อกำหนด AML
- กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์: บางกระเป๋าเงินอาจมีข้อจำกัดหรือข้อกำหนดเพิ่มเติมตามผู้ให้บริการและกฎระเบียบท้องถิ่น
- การชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี: อยู่ภายใต้ข้อกำหนดการยืนยันที่เฉพาะเจาะจงและข้อพิจารณาด้านกฎระเบียบเนื่องจากลักษณะของสินทรัพย์ดิจิทัล
การแก้ไขข้อพิพาทและกระบวนการร้องเรียน
แม้ว่า Exness จะมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่มีคุณภาพสูง แต่ข้อพิพาทอาจเกิดขึ้นได้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการระงับข้อพิพาทที่มีอยู่เป็นส่วนสำคัญของการประเมินสถานะทางกฎหมายของโบรกเกอร์
กระบวนการภายใน
Exness มีกระบวนการร้องเรียนภายในที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ:
- การส่งข้อร้องเรียน: นักลงทุนสามารถส่งข้อร้องเรียนผ่านทางอีเมล แชทสด หรือแบบฟอร์มออนไลน์
- การตอบรับ: บริษัทจะตอบรับข้อร้องเรียนภายใน 5 วันทำการ
- การสอบสวน: Exness จะสอบสวนข้อร้องเรียนและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
- การตัดสินใจ: การตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นหลังจากการสอบสวนอย่างละเอียด
- การแจ้งผล: ลูกค้าจะได้รับแจ้งผลการตัดสินใจพร้อมคำอธิบาย
กระบวนการนี้เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศเกี่ยวกับการจัดการข้อร้องเรียนและการแก้ไขข้อพิพาท
การอุทธรณ์ต่อหน่วยงานกำกับดูแล
หากข้อพิพาทไม่สามารถแก้ไขได้ผ่านกระบวนการภายในของ Exness นักลงทุนอาจติดต่อหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ:
- สำหรับบัญชีที่อยู่ภายใต้ FCA: นักลงทุนสามารถติดต่อ Financial Ombudsman Service (FOS) ในสหราชอาณาจักร
- สำหรับบัญชีที่อยู่ภายใต้ CySEC: นักลงทุนสามารถยื่นข้อร้องเรียนต่อ CySEC หรือผู้ให้บริการข้อพิพาททางการเงินทางเลือก
- สำหรับบัญชีที่อยู่ภายใต้ FSA เซเชลส์: นักลงทุนสามารถติดต่อ FSA เซเชลส์เพื่อขอความช่วยเหลือ
ความท้าทายด้านเขตอำนาจศาลสำหรับนักลงทุนไทย
นักลงทุนไทยที่มีข้อพิพาทกับ Exness อาจเผชิญกับความท้าทายบางประการเกี่ยวกับเขตอำนาจศาล เนื่องจากบริษัทดำเนินการภายใต้ใบอนุญาตระหว่างประเทศ:
- ข้อพิพาทอาจต้องได้รับการแก้ไขในเขตอำนาจศาลที่บริษัทได้รับการรับรอง ซึ่งอาจเป็นสหราชอาณาจักร ไซปรัส หรือเซเชลส์
- อาจมีอุปสรรคด้านภาษาและการสื่อสารเมื่อติดต่อกับหน่วยงานระหว่างประเทศ
- ต้นทุนและความซับซ้อนของการติดตามข้อร้องเรียนในต่างประเทศอาจสูง
ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนไทยควรพยายามแก้ไขข้อพิพาทผ่านกระบวนการภายในของ Exness ก่อนที่จะดำเนินการขั้นต่อไป หากเป็นไปได้ นักลงทุนควรเก็บบันทึกการสื่อสารทั้งหมดและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาท

การปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นในประเทศไทย
แม้ว่า Exness จะดำเนินการภายใต้ใบอนุญาตระหว่างประเทศ แต่ยังต้องพิจารณากฎหมายและข้อบังคับท้องถิ่นในประเทศไทยด้วย สำหรับนักลงทุนไทย ความเข้าใจในวิธีที่กฎระเบียบเหล่านี้มีผลต่อการซื้อขายของพวกเขากับ Exness เป็นสิ่งสำคัญผลกระทบของกฎหมายไทยต่อกิจกรรมการซื้อขาย
กฎหมายและข้อบังคับไทยหลายฉบับมีผลต่อการซื้อขาย Forex และ CFD:- พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์: ควบคุมกิจกรรมด้านหลักทรัพย์และอนุพันธ์ในประเทศไทย
- พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต: มีผลต่อการรวบรวมและใช้ข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
- กฎระเบียบการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา: ควบคุมการโอนเงินข้ามพรมแดนและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
- กฎหมายภาษี: กำหนดข้อผูกพันด้านภาษีสำหรับรายได้จากการซื้อขายในตลาดการเงิน
ข้อกำหนดการรายงานภาษีในประเทศไทย
นักลงทุนไทยที่ซื้อขายกับ Exness มีหน้าที่ด้านภาษีตามกฎหมายไทย:- กำไรจากการซื้อขาย Forex และ CFD ถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี
- นักลงทุนต้องรายงานรายได้เหล่านี้ในการยื่นภาษีประจำปีของตน
- การไม่รายงานรายได้จากการซื้อขายในต่างประเทศอาจนำไปสู่บทลงโทษและดอกเบี้ย
- การเก็บบันทึกธุรกรรมทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรายงานภาษีที่ถูกต้อง
ข้อจำกัดการโอนเงินระหว่างประเทศ
ธนาคารแห่งประเทศไทยมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการโอนเงินระหว่างประเทศที่นักลงทุนไทยควรทราบ:- การโอนเงินออกนอกประเทศที่มีมูลค่าเกินกว่าที่กำหนดอาจต้องได้รับการอนุมัติหรือรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การโอนเงินบางประเภทอาจต้องมีเอกสารสนับสนุนที่แสดงวัตถุประสงค์ของการโอน
- ธนาคารท้องถิ่นอาจมีข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับการโอนเงินไปยังบัญชีโบรกเกอร์ต่างประเทศ
ข้อเปรียบเทียบด้านกฎหมายระหว่างโบรกเกอร์
การเปรียบเทียบข้อกำหนดด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎระเบียบของ Exness กับโบรกเกอร์รายอื่นในตลาดไทยสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าแก่นักลงทุนที่กำลังเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ระหว่างประเทศ
เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ระหว่างประเทศรายอื่นที่ให้บริการแก่ลูกค้าไทย สถานะการกำกับดูแลของ Exness มีลักษณะดังนี้:ด้านกฎหมาย | Exness | โบรกเกอร์ระหว่างประเทศเฉลี่ย | ความสำคัญสำหรับนักลงทุนไทย |
การกำกับดูแลหลายแห่ง | ใบอนุญาตจาก FCA, CySEC, FSA เซเชลส์ | มักมีใบอนุญาตเพียงหนึ่งหรือสองใบ | การกำกับดูแลที่มากกว่าอาจให้การปกป้องที่ดีกว่า |
การแยกบัญชี | แยกบัญชีเต็มรูปแบบในสถาบันการเงินชั้นนำ | มาตรฐานแตกต่างกันไป ต้องตรวจสอบเป็นรายกรณี | ความปลอดภัยของเงินทุนมีความสำคัญสูงสุด |
กองทุนชดเชย | การเข้าร่วมในกองทุนชดเชยนักลงทุนของสหภาพยุโรป | ขึ้นอยู่กับการกำกับดูแล อาจไม่มีในบางกรณี | เพิ่มชั้นของการปกป้องสำหรับเงินฝากของลูกค้า |
การป้องกันยอดติดลบ | เสนอให้กับทุกบัญชี | มีให้บริการแต่อาจมีข้อจำกัด | สำคัญสำหรับการซื้อขายในตลาดที่มีความผันผวนสูง |
ความโปร่งใส | การตรวจสอบโดย Deloitte ปริมาณการซื้อขายและสถิติเผยแพร่ต่อสาธารณะ | ระดับการเปิดเผยข้อมูลแตกต่างกันไป | ช่วยสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่น |
เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ท้องถิ่นในประเทศไทย
โบรกเกอร์ท้องถิ่นในประเทศไทยดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ไทย ซึ่งมีข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบเมื่อเทียบกับ Exness:
ข้อได้เปรียบของโบรกเกอร์ท้องถิ่นในประเทศไทย:
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบท้องถิ่นอย่างเต็มรูปแบบ
- การสนับสนุนลูกค้าในท้องถิ่นและในภาษาไทย
- ความคุ้นเคยกับตลาดและความต้องการของนักลงทุนไทย
- การแก้ไขข้อพิพาทที่ง่ายขึ้นผ่านหน่วยงานไทย
ข้อได้เปรียบของ Exness:
- การเข้าถึงตลาดระหว่างประเทศที่กว้างขึ้น
- สภาพคล่องที่มักจะสูงกว่าและสเปรดที่แคบกว่า
- ผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายมากขึ้น
- ประสบการณ์ระดับโลกและโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

ปัจจัยด้านกฎหมายที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกโบรกเกอร์
เมื่อประเมินสถานะทางกฎหมายของโบรกเกอร์สำหรับการซื้อขายในประเทศไทย นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
- การกำกับดูแลและใบอนุญาต: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือหรือไม่ และยืนยันสถานะใบอนุญาต
- การปกป้องเงินทุนของลูกค้า: ประเมินมาตรการที่โบรกเกอร์ใช้เพื่อปกป้องเงินของลูกค้า รวมถึงการแยกบัญชีและการชดเชย
- ความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูล: พิจารณาว่าโบรกเกอร์มีความโปร่งใสเกี่ยวกับการดำเนินงาน ค่าธรรมเนียม และนโยบายหรือไม่
- ข้อกำหนดการยืนยันและ KYC: ตรวจสอบว่ากระบวนการ KYC และ AML สอดคล้องกับมาตรฐานสากลหรือไม่
- กระบวนการระงับข้อพิพาท: ประเมินกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนและการแก้ไขข้อพิพาทของโบรกเกอร์
- ชื่อเสียงและประวัติ: ค้นหาประวัติของโบรกเกอร์ รวมถึงบทลงโทษทางกฎหมายหรือข้อกังวลด้านกฎระเบียบใดๆ
- ความเข้ากันได้กับกฎหมายท้องถิ่น: พิจารณาว่าการดำเนินการของโบรกเกอร์สอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับไทยหรือไม่
คำถามที่พบบ่อย
Exness มีใบอนุญาตให้ดำเนินการในประเทศไทยโดยตรงหรือไม่?
ปัจจุบัน Exness ไม่มีใบอนุญาตโดยตรงจากหน่วยงานกำกับดูแลไทย เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อดำเนินการในฐานะโบรกเกอร์ภายในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทให้บริการแก่ลูกค้าไทยผ่านใบอนุญาตระหว่างประเทศที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงการกำกับดูแลโดย Financial Conduct Authority (FCA) ในสหราชอาณาจักร Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) และ Financial Services Authority (FSA) ของเซเชลส์ สถานการณ์นี้เหมือนกับโบรกเกอร์ระหว่างประเทศส่วนใหญ่ที่ให้บริการในประเทศไทย ในขณะนี้ นักลงทุนไทยสามารถใช้บริการของโบรกเกอร์ต่างประเทศได้ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามข้อกำหนดภาษีและการโอนเงินระหว่างประเทศที่บังคับใช้ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรทราบว่ากฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป และควรติดตามประกาศจากหน่วยงานกำกับดูแลไทยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
เงินของฉันจะได้รับการปกป้องอย่างไรเมื่อซื้อขายกับ Exness?
เงินของลูกค้าที่ฝากไว้กับ Exness ได้รับการปกป้องผ่านมาตรการหลายประการตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศ บริษัทใช้ระบบบัญชีแยกต่างหาก ซึ่งหมายความว่าเงินของลูกค้าจะถูกเก็บแยกจากเงินทุนการดำเนินงานของบริษัทในสถาบันการเงินที่ได้รับการควบคุม วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าเงินของลูกค้าจะได้รับการปกป้องในกรณีที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน นอกจากนี้ ในฐานะบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ CySEC Exness เป็นสมาชิกของกองทุนชดเชยนักลงทุน (ICF) ของไซปรัส ซึ่งสามารถจ่ายชดเชยให้กับลูกค้าที่มีสิทธิ์สูงสุดถึง 20,000 ยูโรต่อนักลงทุนในกรณีที่บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันทางการเงินของตนได้ Exness ยังเสนอการป้องกันยอดติดลบสำหรับทุกบัญชี ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะไม่สูญเสียเงินมากกว่าที่พวกเขาฝากในบัญชีซื้อขายของตน นี่เป็นคุณสมบัติความปลอดภัยที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูง สุดท้าย บริษัทดำเนินการตรวจสอบโดย Deloitte เป็นประจำและเผยแพร่สถิติปริมาณการซื้อขาย การถอนเงินของลูกค้า และค่าคอมมิชชันของตัวแทน ซึ่งเพิ่มระดับความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับการดำเนินงาน
ฉันจะจัดการเรื่องภาษีสำหรับกำไรจากการซื้อขายกับ Exness ในประเทศไทยอย่างไร?
ในประเทศไทย กำไรจากการซื้อขาย Forex และ CFD ถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี และนักลงทุนมีหน้าที่ต้องรายงานรายได้เหล่านี้ในการยื่นภาษีประจำปีของตน โดยทั่วไป กำไรเหล่านี้จะถูกจัดประเภทเป็น “รายได้อื่นๆ” ตามกฎหมายภาษีไทย และต้องเสียภาษีตามอัตราก้าวหน้า นักลงทุนควรเก็บบันทึกธุรกรรมทั้งหมดอย่างละเอียด รวมถึงฝากและถอนเงิน กำไรและขาดทุนจากการซื้อขาย และค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้กับโบรกเกอร์ Exness จะออกรายงานการซื้อขายและใบแจ้งยอดที่สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษีได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่หักภาษี ณ ที่จ่ายจากกำไรของนักลงทุนไทย ทำให้เป็นความรับผิดชอบของนักลงทุนเองในการคำนวณและชำระภาษีที่ถึงกำหนด นักลงทุนที่มีรายได้จากการซื้อขายจำนวนมากหรือซื้อขายเป็นประจำอาจต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นรายงวดแทนที่จะเป็นรายปี เนื่องจากกฎหมายภาษีอาจซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ จึงแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือนักบัญชีเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณเอง การไม่รายงานรายได้จากการซื้อขายอาจนำไปสู่บทลงโทษ ดอกเบี้ย และอาจมีผลทางกฎหมายตามกฎหมายภาษีไทย